เกิดเหตุระทึกขึ้นเมื่อ ไฟไหม้เครื่องบินทิเบต ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้โดยสาร เคราะห์ดีที่ไม่ผู้เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย ได้รายงานว่าเกิดเหตุไฟไหม้เครื่องบินสายการบินทิเบต แอร์ไลน์ รุ่นแอร์บัส A319 ก่อนที่กำลังจะขึ้นบิน ส่งผลให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบิน
เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้
และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 36 ราย ทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากอาการพกช้ำ และอาการเคล็ดขัดยอกในระหว่างการอพยพ ทั้งนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกส่งโรงพยาบาลแล้ว
ด้าน องค์การการบินพลเรือนของจีน หรือ CAAC ออกมาเปิดเผยว่า นักบินกำลังนำเครื่องขึ้นจากรันเวย์สนามบินในนครฉงชิ่งของจีน แต่ในขณะที่เขากำลังทำตามขั้นตอนเขาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ และทำให้ยกเลิกคำสั่งขึ้นบิน และนำไปสู่เพลิงที่ลุกไหม้ในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าสาเหตุของเหตุ ไฟไหม้เครื่องบินทิเบต มาจากอะไร และจะทำการสืบสวนต่อไป
สื่อในประเทศ เกาหลีเหนือ ออกมาเปิดเผยว่าพบผู้ป่วย โควิด รายแรกภายในประเทศ ด้านสื่อท้องถิ่นชี้เป็นภาวะฉุกเฉินครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า สื่อในประเทศเกาหลีเหนือออกมาเปิดเผยว่า ทางการเกาหลีเหนือพบผู้ป่วยโควิดรายแรก และเรียกสถานการณ์นี้ว่า ภาวะฉุกเฉินครั้งใหญ่ของประเทศ โดยผู้ป่วยรายแรกนี้ถูกพบในกรุงเปียงยางเมืองหลวงประเทศเกาหลีเหนือ และติดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน
โดยสถานการณ์โควิดเกาหลีเหนือ อาจจะสร้างความปั่นป่วนให้กับประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศเกาหลีเหนือไม่น่าจะมีศักยภาพเพียงพอในการรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมาก เบื้องต้นนาย คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้สั่งล็อกดาวน์ทุกเมือง และเตรียมแจกจ่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่อไป
ซึ่งผู้นำเกาหลีเหนือมั่นใจว่าประเทศจะสามารถก้าวผ่านการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ไปได้
ก่อนหน้านี้ประเทศเกาหลีเหนืออ้างว่าไม่เคยพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในช่วงตลอดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2563 อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายเชื่อว่าเชื้อไวรัสน่าจะเข้าไปแพร่ระบาดภายในประเทศเกาหลีเหนือก่อนหน้านี้แล้ว
ทั้งนี้ประเทศเกาหลีเหนือไม่ได้เข้าร่วมโครงการแบ่งปันวัคซีนโควิดหรือ โคแวกซ์ นอกจากนี้ยังไม่มีรายงานที่แน่ชัดด้วยว่าทางเกาหลีเหนือได้นำเข้าวัคซีนโควิดหรือไม่
WHO เตือนจีน มาตรการ ‘โควิดเป็นศูนย์’ ไม่ยั่งยืน แนะรีบเปลี่ยน
WHO เตือนจีน มาตรการกดยอดผู้ป่วย โควิดเป็นศูนย์ เป็นมาตรการที่มาตรการที่ไม่ยั่งยืน แนะนำให้รีบเปลี่ยน หลังปัจจุบันล็อกดาวน์แล้ว 7 สัปดาห์ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับมาตรการ โควิดเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นนโยบายการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน ว่าเป็นนโยบายที่ไม่ยั้งยืน
โดยทางองค์การอนามัยโลกกล่าวถึงนโยบายนี้ว่าเป็นที่ไม่ยั่งยืน เนื่องด้วยพฤติกรรมของไวรัสในปัจจุบัน และความเป็นไปได้ถึงเชื้อไวรัสในอนาคต พร้อมแนะนำทางการจีนเปลี่ยนนโยบายในการรับมือกับโรคโควิด-19 ประเทศจีนนั้นเป็นมหาอำนาจเพียงชาติเดียวที่ยังคงใช้มาตรการ โควิดเป็นศูนย์ และทางการจีนได้สั่งล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้เมืองที่ประชาชนกว่า 25 ล้านคน นานต่อเนื่องมาเป็นสัปดาห์ที่เจ็ด และนำไปสู่กระแสความไม่พอใจของประชาชน
และแม้ว่าจำนวนผู้ป่วยโควิดในนครเซี่ยงไฮ้จะลดลง แต่เนื่องจากนโยบายโควิดของจีนนั้น ทำให้ทางการจีนเตรียมเดินหน้าเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ความเห็นของนาย เกเบรเยซุส เผยแพร่ออกไป มีรายงานว่าทางเว็ปไซต์สื่อสังคมออนไลน์ในประเทศจีนได้ทำการเซนเซอร์ชื่อของ นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส รวมถึงถูกลบใบหน้าของเขาออกจากสื่อสังคมออนไลน์จากจีน
นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า รัฐบาลบูรณาการทุกภาคส่วนรวมถึงการประสานงานกับทางการต่างประเทศเพื่อให้การช่วยเหลือคนไทยที่เดือดร้อนให้ได้กลับประเทศโดยเร็วที่สุดภายใต้กรอบกฎหมายของแต่ละประเทศ ดังนั้น การดูแลตนเองค้นหาข้อมูลนายจ้างเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งผู้ที่สนใจไปทำงานในต่างประเทศ ควรพิจารณาสมัครงานจากประกาศรับสมัครงานของหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือ โดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สมัคร ตำแหน่งงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ รายได้ สวัสดิการ ช่องทางการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ชัดเจน
ทั้งนี้ หากต้องการขอรับข้อมูลเพื่มเติมเกี่ยวกับตำแหน่งงาน สามารถสอบถามได้ที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ที่หมายเลข 02247 9423 หรือ สายด่วน 1560 กด 2 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกแห่ง และหากประสบปัญหาในต่างประเทศ สามารถติดต่อ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศนั้นๆ หรือ Call Center กรมการกงสุล หมายเลข 02 572 8442 ได้ตลอด 24 ชม.
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น